ก่อนอื่นการจะแต่งหน้าสักครั้งหนึ่ง ยิ่งถ้าเป็นการแต่งหน้าเพื่อเข้าร่วมในงานสำคัญแล้ว ความคงทนของเมคอัพที่ติดบนผิวหน้าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสภาพอากาศในประเทศไทยนั้นไม่เอื้ออำนวย และสามารถพร้อมที่จะละลายเมคอัพได้ตลอดเวลา
ดังนั้นจากที่ปกติคนเราจะแต่งหน้าเองในการออกจากบ้าน จึงจำเป็นต้องใช้บริการ ‘ช่างแต่งหน้า’ หรือ ‘ช่างเสริมสวย’ ให้บริการและมอบความสวยให้แก่พวกเธอ ซึ่งตรงนี้นี่แหละค่ะ ที่เป็นจุดสำคัญ เพราะการจ้างช่างแต่งหน้ามาสักคน ลูกค้าย่อมคาดหวังในผลลัพธ์ที่ออกมาดูดี นอกจากแต่งสวยแล้ว ยังต้องติดทนและหลังจากล้างเมคอัพผิวหน้าต้องไม่มีปัญหาตามมา
วันนี้เราจึงมาเผยเคล็ดลับเด็ดสำหรับการเริ่มต้นอาชีพทางด้านนี้ สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนแต่งหน้าต้องรู้ ! กับเทคนิค ‘การเตรียมผิวหน้า’ ระดับมืออาชีพ เริ่มต้นจากอะไรบ้างมาดูกันเลย
ขั้นตอนที่ 1 วิเคราะห์ผิวหน้า
เพราะผิวหน้าทุกคนไม่ได้เหมือนกันไปซะหมด เพราะฉะนั้นเราควรดูสภาพผิวหน้าของลูกค้าเสียก่อน โดยอาจจะใช้มือสัมผัสหรือใช้ตาดูว่าสภาพผิวเป็นอย่างไร และทางที่ดีควรสอบถามลูกค้าด้วยว่า มีอาการแพ้ส่วนผสมใดในสกินแคร์หรือเครื่องสำอางบ้างหรือไม่ เพื่อที่เราจะได้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยกับผิวหน้าของลูกค้านั่นเอง
ขั้นตอนที่ 2 ทำความสะอาดแบบ 2 ชั้น
ทำความสะอาดหน้าเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะผิวหน้าที่สะอาดจะทำให้เครื่องสำอางเกาะได้ดี อีกทั้งเป็นจุดเริ่มต้นผิวที่ดี ยับยั้งการเกิดปัญหาสิว หรือ ริ้วรอยต่าง ๆ โดยเราควรเริ่มจากการล้างทำความสะอาดหน้าให้สะอาดในรอบเดียว ไม่ควรล้างซ้ำบ่อยครั้งเพราะจะกระตุ้นให้ผิวมัน
จากนั้นใช้โทนเนอร์หรือคลีนซิ่ง เช็ดรอบผิวหน้าอีกครั้งเพื่อความสะอาดและเตรียมผิวเพื่อเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป
TIPS : ซึ่งทริคของเราสำหรับการเลือกใช้โทนเนอร์นั้น ควรเลือกใช้โทนเนอร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์ เพื่อที่จะไม่ให้ผิวเกิดความระคายเคือง
ขั้นตอนที่ 3 บำรุงให้ผิวฉ่ำ ด้วยเซรั่มและครีมบำรุงต่าง ๆ
หลังจากที่เราเตรียมผิวหน้าในขั้นตอนการล้างทำความสะอาดเสร็จแล้ว ต่อไปคือการบำรุง เลือกใช้เซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว โดยเซรั่มนั้นใช้แค่เพียง 2-3 หยดแล้วนวดให้ซึมลึกเข้าสู่ผิว
จากนั้นค่อยลงครีมบำรุงผิวตามขั้นตอนต่อไป โดยต้องคำนึงเสมอถึงประเภทผิวของลูกค้า ถ้าหากผิวแห้งให้เลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว ถ้าเป็นคนผิวมันให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ควบคุมความมัน
TIPS : ควรลงเซรั่มก่อนเนื้อครีมทุกครั้ง เพราะเซรั่มมีลักษณะเป็นน้ำมีโมเลกุลเล็กกว่าครีม หากลงครีมกันการซึมลึกของเนื้อเซรั่มจะไม่ดีพอ ทำให้ประสิทธิภาพของเซรั่มอาจไม่ได้ผล และนอกจากนี้ในขั้นตอนนี้ควรลงกันแดดและลิปมันเพื่อเป็นการบำรุงริมฝีปากด้วย
ขั้นตอนที่ 4 ลง Primer เพื่อให้เครื่องสำอางติดกับหน้าได้ดียิ่งขึ้น
ไอเท็มนี้เป็นส่วนสำคัญอย่างมากสำหรับการแต่งหน้า เพราะมีหน้าที่ทำให้ผิวเรียบสม่ำเสมอ โดยที่ไม่ทิ้งรอยขาวหรือวอกเพราะ Primer ไม่มีสี โดยเจ้าตัวนี้เนี่ยควรลงทุกครั้งก่อนที่ลงรองพื้น เพื่อช่วยปรับสภาพผิว เมื่อลงเสร็จแล้วผิวก็จะไม่ตกร่อง ทำให้ลงรองพื้นและเรียบเนียนขึ้นนั่นเอง
TIPS : ขั้นตอนการลงสกินแคร์และเครื่องสำอาง ได้แก่ เซรั่ม > ครีมบำรุง > กันแดด > ลิปมัน > Primer > รองพื้น
ขั้นตอนที่ 5 อำพรางความหมองด้วยคอนซีลเลอร์
มีรอยดำ รอยช้ำใต้ตาก็ไม่ต้องหวั่นตราบใดที่มีคอนซีลเลอร์อยู่ยังไงก็ปกปิดได้ หากลูกค้ามีขอบรอบตาที่คล้ำ ควรลงด้วยคอนซีลเลอร์เพื่อปรับให้ผิวตรงส่วนนั้นเป็นกลางพอดีกับการลงรองพื้น โดยคอนซีลเลอร์นั้นจะมีให้เลือกหลายเฉด ได้แก่
1.เบสสีเขียว สำหรับปกปิดสิวหรือริ้วรอยด่างดำ ทำให้ผิวดูสว่างขึ้น,
2.เบสสีลาเวนเดอร์ ช่วยปรับผิวโทนสีเหลืองให้สม่ำเสมอ,
3.เบสสีแดงหรือส้ม ช่วยปกปิดรอยดำคล้ำ และถ้าต้องการปิดรอบตาที่คล้ำ ควรเลือกคอนซีลเลอร์สีอ่อนกว่าผิวตัวเอง 1-2 เฉด
TIPS : การเลือกคอนซีลเลอร์ควรวัดที่ผิวหน้าโดยตรง
เพราะการแต่งหน้าอย่างมืออาชีพ ต้องอาศัยความเอาใจใส่และความละเอียดอ่อนเป็นพิเศษ สำหรับใครที่อยากก้าวเดินมาทางนี้ด้วยการประกอบอาชีพ Make up Artist ที่ The Magic Academy เรามีคอร์สเรียนสอนแต่งหน้า ที่จะเปิดเผยเคล็ดลับให้คุณทั้งหลักทฤษฎีและหลักปฏิบัติแบบไม่มีกั๊ก พร้อมสอนคุณให้เรียนจบแล้วสามารถประกอบอาชีพได้ทันที ด้วยครูผู้สอนที่เชี่ยวชาญที่อัปเดตความรู้ใหม่ตลอด ไม่มีย่ำอยู่ทีเดิม กับบทเรียนเดิม ๆ แน่นอน
สนใจติดต่อ
โทร: 063-596-1905, 062-898-9395
LINE: https://lin.ee/i36RgoR